อัปเดตอาการบาดเจ็บ ‘แสตมป์’ หลังสละเข็มขัด เร่งโฟกัสรักษาหมอนรองกระดูกเข่าซ้าย

‘แสตมป์ แฟร์เท็กซ์’ นักสู้สาวแกร่งใจเกินร้อย อดีตแชมป์โลก ONE MMA รุ่นอะตอมเวต (105-115 ป.) วัย 27 ปี จากระยอง ออกมาอัปเดตอาการบาดเจ็บหมอนรองกระดูกเข่าข้างซ้ายฉีกเป็นครั้งแรก หลังได้รับบาดเจ็บในระหว่างพักฟื้นจนต้องถอนตัวจากการแข่งขันในไฟต์ล่าสุด

ย้อนกลับไปในช่วงเดือน พ.ค.67 ‘แสตมป์’ ที่ในขณะนั้นยังเป็นเจ้าของเข็มขัดแชมป์โลก ONE MMA รุ่นอะตอมเวต (105-115 ป.) ได้รับบาดเจ็บหมอนรองกระดูกเข่าข้างซ้ายฉีกระหว่างการฝึกซ้อม จนทำให้ต้องถอนตัวจากการป้องกันตำแหน่งครั้งแรกกับเพื่อนรักอย่าง ‘เดนิส แซมโบอันกา’ ในศึก ONE 167 เมื่อเดือน มิ.ย.67 ทันที

หลังจากใช้เวลากว่า 10 เดือนในการรักษาอาการบาดเจ็บ ‘แสตมป์’ ก็พร้อมกลับมาป้องกันแชมป์เป็นครั้งแรกกับ ’เดนิส’ ที่เป็นแชมป์เฉพาะกาลของรุ่นอีกครั้ง ในศึก ONE 173 ซึ่งเดิมกำหนดจัดขึ้นที่สังเวียน บอล อารีนา เมืองเดนเวอร์ รัฐโคโลราโด ในวันเสาร์ที่ 2 ส.ค.68

อย่างไรก็ตาม ’แสตมป์’ กลับต้องเผชิญกับอาการบาดเจ็บซ้ำในระหว่างพักฟื้นจากอาการบาดเจ็บหมอนรองกระดูกเข่าข้างซ้ายฉีก ส่งผลให้เธอจำเป็นต้องถอนตัวจากการป้องกันเข็มขัดแชมป์โลก ONE MMA รุ่นอะตอมเวต ครั้งแรกอย่างน่าเสียดาย

เนื่องจากการที่ ‘แสตมป์’ ต้องพักการแข่งขันเกือบ 2 ปี จากอาการบาดเจ็บ จนไม่สามารถทำหน้าที่ป้องกันตำแหน่งแชมป์โลกได้ เธอจึงตัดสินใจสละบัลลังก์ราชินีของรุ่นนี้ที่ได้ครองมาตั้งแต่เดือน ก.ย.66 พร้อมส่งให้ ‘เดนิส’ ซึ่งเป็นแชมป์โลกเฉพาะกาลในปัจจุบัน ได้รับการสถาปนาให้ขึ้นเป็น แชมป์โลก ONE MMA รุ่นอะตอมเวต อย่างเป็นทางการ ทันที พร้อมกำหนดจัดการแข่งขัน ศึก ONE 173 ขึ้นใหม่ จากเดิมวันเสาร์ที่ 2 ส.ค. 68 เป็นวันเสาร์ที่ 27 มิ.ย. 69

โดย ‘แสตมป์’ ที่กำลังอยู่ในช่วงรักษาอาการบาดเจ็บหมอนรองกระดูกเข่าข้างซ้ายฉีก ได้ออกมาอัปเดตอาการบาดเจ็บล่าสุดของตัวเอง ผ่านการให้สัมภาษณ์ ณ ห้องสื่อมวลชน สนามมวยเวทีลุมพินี เมื่อวันศุกร์ที่ 9 พ.ค.ที่ผ่านมา

“อาการบาดเจ็บตรงหมอนรองกระดูก ค่อนข้างรักษานานกว่าส่วนอื่น ๆ ค่ะ ตอนนี้ต้องกลับไปเริ่มต้นใหม่ เพราะช่วงประมาณ 4-5 เดือนที่หมอยังไม่ให้ออกกำลังกาย หนูกลับไปฝืนออกก่อน ซึ่งตอนนี้อาการมันก็ดีขึ้นแล้ว แต่ยังไม่ถึง ขั้นที่จะกลับไปซ้อมเต็มรูปแบบได้ คาดว่าประมาณ 6 เดือนหายสนิทน่าจะเป็นไปได้ค่ะ”

“อาการบาดเจ็บหมอนรองกระดูก สำคัญมากต่อการสู้ MMA เพราะกีฬาชนิดนี้ต้องใช้ทักษะการต่อสู้ทั้งการรัด การปล้ำ ใช้กำลังกล้ามขาทุกอย่าง และยิ่งเราเป็นสายมวยไทยที่เน้นยืน ส่วนคู่ชกเป็นสาย MMA ที่จ้องมาเทกดาวน์อย่างเดียว กำลังขาจึงสำคัญที่สุดค่ะ”

“การรักษาอาการบาดเจ็บตอนนี้เน้นไปที่การกายภาพให้มากขึ้น เพื่อให้หัวเข่ากลับมาหายดี 100 เปอร์เซ็นต์ให้เร็วที่สุด ตอนนี้หนูก็ร้างเวทีไปนานเกือบ 2 ปี ถ้ากลับมาชกก็อยากได้ไฟต์อุ่นเครื่องก่อนจะกลับไปป้องกันแชมป์ MMA อย่างเช่นการชกมวยไทยหรือคิกบ็อกซิ่ง และขอฝากถึงแฟน ๆ หนูจะพยายามกลับมาให้เร็วที่สุด เพราะหนูก็อยากขึ้นชกเต็มทีแล้วเหมือนกันค่ะ”