
เปิดศึกภาค 2 เพราะกระแสดี มีคนเชื่อว่าผู้ท้าชิงไม่น่าแพ้
หลังจาก Glory ประกาศคู่ประกอบรายการนัดใหญ่ ศึก Glory 100 วันที่ 2 เป็นการป้องกันเข็มขัดแชมป์โลก Glory รุ่นเฟเธอร์เวต พิกัด 65 กิโลกรัม (143.3 ปอนด์) ครั้งที่ 9 ของ ‘เพชรพนมรุ้ง เกียรติหมู่ 9’ เจ้าของตำแหน่ง วัย 29 ปี ชาวไทย กับ ‘มิเกล ตรินดาเด’ ผู้ท้าชิงอันดับ 1 วัย 24 ปี ชาวโปรตุเกส
ทำเอาแฟนคิกบ็อกซิ่งทั่วโลกฮือฮาไปตาม ๆ กัน เพราะถึงจะเป็นคู่เก่าที่เคยชกกันมาแล้ว แต่การโคจรมาพบกันใหม่ในช่วงเวลาที่เหมาะสมและลงตัว ถือว่าน่าดูกว่าการพบกันในครั้งแรกด้วยซ้ำ
ศึก Glory 100 จัดการแข่งขัน 2 วัน คือ 13 และ 14 มิถุนายน 2025) รายการ เพชรพนมรุ้ง กับ มิเกล ทำการแข่งขันในวันเสาร์ที่ 14 มิถุนายน 2025 หรือหลังเที่ยงคืนวันอาทิตย์ที่ 15 มิถุนายน 2568 ตามเวลาประเทศไทย ณ สังเวียนมวย เมืองรอตเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์
ทั้งคู่เพิ่งชกกันในรอบชิงชนะเลิศ มวยรอบทัวร์นาเมนต์ Glory x Rise Featherweight Grand Prix พิกัด 65 กิโลกรัม ชิงเงินรางวัล 3.4 ล้านบาท (100,000 เหรียญดอลลาร์สหรัฐ) เมื่อวันเสาร์ที่ 21 ธันวาคม 2567 ณ สังเวียนมาคุฮาริ เมสเสะ จังหวัดชิบะ ประเทศญี่ปุ่น
ผลการแข่งขันปรากฏว่า ‘เพชรพนมรุ้ง’ ซึ่งเป็นฝ่ายเดินและขยันออกอาวุธมากกว่า เฉือนเอาชนะคะแนนไม่เอกฉันท์ (2-1 เสียง) คว้าแชมป์พร้อมเงินรางวัลก้อนโต รวมทั้งถูกยกให้เป็น ยอดคิกบ็อกซิ่งหมายเลข 1 ของโลก เมื่อเทียบกันปอนด์ต่อปอนด์ ในเวลาต่อมา
กระทั่ง ‘มิเกล ตรินดาเด’ กลับมาชกกู้ชื่อ ไล่ถลุงจอมทรหดอย่าง ‘เรน ซูหงิยามะ’ ซึ่งเป็นอดีตนักสู้สตรีตไฟต์ เจ้าของสมญา ‘ยา-มัน’ จนพี่เลี้ยงขอยอมแพ้ในยกที่ 3 เมื่อ 29 มีนาคม ที่ผ่านมา ทำให้ Glory ล็อกตัวยอดคิกบ็อกซิ่งตัวดึงรายนี้ไว้เป็น ‘ผู้ท้าชิงไฟต์บังคับ’ ของแชมป์โลกชาวไทยทันที
เพราะถ้าหลุดจาก ‘มิเกล ตรินดาเด’ ก็คงไม่มีใครเหมาะที่จะชกกับ ‘เพชรพนมรุ้ง’ อีกแล้ว เจอกันใหม่ มีหลายคนแอบหวังอยู่ลึก ๆ ว่า ชัยชนะของ มิเกล ในไฟต์ล่าสุด สามารถดึงศักยภาพและเรียกความมั่นใจของนักคิกบ็อกซิ่งชาวโปรตุเกส กลับมาได้เกือบหมด
บวกกับกระแสอารมณ์ค้างของแฟนมวยจากการพบกันไฟต์ล่าสุด ที่ยังมีหลายคนมองว่า มิเกล น่าเป็นฝ่ายชนะ (แม้ว่าแฟนมวยชาวไทยจะดูว่า เพชรพนมรุ้ง ชนะชัดเจน และชนะเกือบทุกยก ก็ตาม) น่าจะทำให้ยอดคิกบ็อกซิ่งชาวโปรตุเกสมีโอกาสสร้างบิ๊กเซอร์ไพรส์ ได้เหมือนกัน
ที่สำคัญคือ การร้างสังเวียนเป็นเวลาเกินกว่าครึ่งปี ย่อมส่งผลไม่มากก็(ไม่)น้อย ต่อสภาพร่างกายเจ้าของตำแหน่งชาวไทย ที่อาจจะชกไม่คล่องตัวและเฉียบคมเหมือนที่ผ่านมา
ด้วยปัจจัยต่าง ๆ ที่กล่าวมา ทำให้ ศึก ‘เพชรพนมรุ้ง VS. มิเกล’ ภาค 2 กลายเป็นมวยถูกคู่ที่น่าติดตาม และยากต่อการคาดเดาผลการแข่งขันอีกคู่หนึ่ง