นิโก้ โอไรลีย์ ทำประตูเบิกร่องในช่วงท้ายเกมช่วยให้ “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ บุกไปเอาชนะ “ท็อฟฟี่สีน้ำเงิน” เอฟเวอร์ตัน ถึงกูดิสัน พาร์ค 2-0 เก็บเพิ่มเป็น 58 คะแนนแซง น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ขึ้นมารั้งอันดับ 4 ของศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ

เจ้าถิ่น เอฟเวอร์ตัน รอดพ้นการตกชั้นไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เกมนี้จัดทัพด้วยการวาง แจ็ค แฮร์ริสัน, อับดูลาย ดูคูเร่ และอิลิมาน เอ็นดิอาย ทำเกมรุกอยู่ด้านหลัง อาร์มานโด้ โบรย่า ส่วนทีมเยือนไม่มี เอแดร์ซอน นายทวารมือหนึ่งที่บาดเจ็บให้ สเตฟาน ออร์เตก้า ลงเฝ้าเสา

เริ่มเกมครึ่งแรก แมนฯซิตี้ เป็นฝ่ายครองบอลบุกเข้าใส่ แต่ยังไม่มีโอกาสได้จบสกอร์มากนัก ทำให้ผ่าน 15 นาทีแรกยังเสมอกันอยู่ 0-0

ทั้งสองทีมเล่นกันแบบเกร็ง ๆ แทบจะไม่มีโอกาสได้ลุ้นเลย มีแบบจะแจ้งจากจังหวะเตะมุมของ เอฟเวอร์ตัน ที่เจมส์ ทาร์คอฟสกี้ โขกไปชนเสา ซิตี้ได้ลุ้นจาก เควิน เดอ บรอยน์ แต่ยิงไปติดบล็อกทำให้จบครึ่งแรกยังเสมอ 0-0

กลับมาเล่นครึ่งหลังทั้งสองทีมเริ่มเปิดเกมรุกกันมากขึ้น แต่เป็นทางฝั่งของ เอฟเวอร์ตัน ที่ได้ลุ้นมากกว่า แต่ก็ไปติดเซฟของ สเตฟาน ออร์เตก้า ที่ป้องกันไว้ได้หมด

ส่วน แมนฯซิตี้ ยังคงเล่นกันช้าไม่สามารถเจาะเข้าสู่พื้นที่สุดท้ายได้ ได้ลุ้นเหมือนกันจากจังหวะยิงหน้ากรอบเขตโทษ แต่ก็ยากที่จะผ่านมือ จอร์แดน พีคฟอร์ด

ในช่วง 20 นาทีสุดท้ายทีมเยือนครองเกมบุกเข้าใส่แบบเบ็ดเสร็จ ส่งตัวจี๊ดอย่าง เฌเรมี่ โดกู ลงมา แต่เกมรับของ เอฟเวอร์ตัน ยังช่วยป้องกันได้ดี

นาทีที่ 84 ความพยายามของ แมนฯซิตี้ ก็มาประสบผลสำเร็จได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะขึ้นเกมทางฝั่งขวา มาเตอุส นูเนส หลุดไปเปิดให้กับ นิโก้ โอไรลีย์ แบ็คซ้ายที่สอดเข้ายิงเสาแรกจ่อ ๆ ไม่เหลือ

ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีที่ 90+2 ทีมเยือนมาได้ประตูตอกฝาโลงจากตัวสำรองอย่าง มาเตโอ โควาซิซ ทำให้จบเกม แมนฯซิตี้ บุกไปเอาชนะ เอฟเวอร์ตัน 2-0 ขึ้นมารั้งอันดับ 4 ของพรีเมียร์ลีก อังกฤษ

11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีมที่ลงสนามในเกมนี้

เอฟเวอร์ตัน (4-2-3-1) : จอร์แดน พีคฟอร์ด, เจค โอไบรอัน, เจมส์ ทาร์คอฟสกี้, จาร์ราด แบรนธ์เวต, วิตาลี่ มิโคเลนโก้, อิดริสซ่า กาน่า เกย์, เจมส์ การ์เนอร์, แจ็ค แฮร์ริสัน, อับดูลาย ดูคูเร่, อิลิมาน เอ็นดิอาย และอาร์มานโด้ โบรย่า

แมนฯซิตี้ (4-2-3-1) : สเตฟาน ออร์เตก้า, มาเตอุส นูเนส, รูเบน ดิอาส, ยอสโก้ กวาร์ดิโอล, นิโก้ โอไรลีย์, อิลคาย กุนโดกาน, นิโก้ กอนซาเลซ, แบร์นาร์โด้ ซิลวา, เควิน เดอ บรอยน์, ซาวินโญ่ และโอมาร์ มาร์มุช