
บูกาโย่ ซาก้า ซัดประตูเบิกร่องช่วยให้ “ปืนใหญ่” อาร์เซน่อล บุกไปเอาชนะ “ราชันชุดขาว” เรอัล มาดริด ถึงซานติอาโก้ เบร์นาเบว 2-1 ผ่านเข้ารอบตัดเชือกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้สำเร็จ
โดยในเลกแรก อาร์เซน่อล เป็นฝ่ายเปิดบ้านถล่มมาได้ก่อน 3-0 กุมความได้เปรียบไว้ค่อนข้างเยอะ เกมนี้จัดทัพด้วยการส่ง มาร์ติน โอเดการ์ด ออกสตาร์ทตัวจริง เช่นเดียวกับ เดแคลน ไรซ์ และบูกาโย่ ซาก้า ที่ผ่านความฟิต ส่วนเรอัล มาดริด ไม่มีเอดูอาร์โด้ คามาวิงก้า ที่ติดโทษแบน ขยับ เฟเดริโก้ บัลเบร์เด้ กลับมาคุมแดนกลาง
เริ่มเกมครึ่งแรกมาเพียงแค่ 2 นาที เรอัล มาดริด ส่งผลเข้าสู่ก้นตาข่ายจาก คีลิยัน เอ็มบัปเป้ แต่ทว่าอยู่ในตำแหน่งล้ำหน้าไปก่อน ทำให้ยังไม่ขึ้นนำ
นาทีที่ 12 อาร์เซน่อล มาได้จุดโทษจากจังหวะเตะมุม ราอูล อเซนซิโอ้ ไปดึง มิเกล เมริโน่ ผู้ตัดสินฟร็องซัวส์ เลอเตซิเย่ร์ ดู VAR ก่อนจะเป่าจุดโทษ แต่ บูกาโย่ ซาก้า ดันยิงไปติดเซฟของ ตีโบต์ กูร์กตัวส์ ทำให้สกอร์ยังเสมอ 0-0
จากนั้น เรอัล มาดริด ได้ลุ้นบ้างคราวนี้เป็น เดแคลน ไรซ์ ที่ไปรั้ง คีลิยัน เอ็มบัปเป้ จากด้านหลังใช้เวลาเช็ค VAR อยู่นานก่อนไปดูจอเอง แต่สุดท้ายไม่ให้จุดโทษเกมดำเนินต่อไป เจ้าถิ่นบุกอย่างหนักแต่แทบจะไม่ได้สร้างโอกาสอันตรายเลย ยังไม่สามารถทำอะไรได้ ทำให้จบครึ่งแรกเสมอกันไป 0-0
กลับมาเล่นครึ่งหลัง เรอัล มาดริด ยังบุกหนัก แต่ต้องชื่นชมเกมรับของ อาร์เซน่อล ที่ทำการบ้านมาดี ไม่เปิดโอกาสให้ 3 แนวรุกตัวอันตรายได้มีโอกาสได้จบสกอร์แบบเหน่ง ๆ
นาทีที่ 65 กลายเป็น อาร์เซน่อล ที่มาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 มิเกล เมริโน่ แทงทะลุช่องให้ บูกาโย่ ซาก้า หลุดเดี่ยวเข้าไปชิฟข้ามตัว ตีโบต์ กูร์กตัวส์ เข้าไป
แต่ดีใจได้ไม่นาน 2 นาทีต่อมา เรอัล มาดริด ตามตีเสมอ 1-1 จากจังหวะความผิดพลาดของ วิลเลี่ยม ซาลิบา ที่ยืนเหม่อจนโดน วินิซิอุส จูเนียร์ ฉกเข้าไปซัดโล่ง ๆ ไม่เหลือ
ช่วงเวลาที่เหลือเจ้าบ้านพยายามบุกอย่างหนัก แต่ก็เจอเกมสวนกลับเล่นงานอยู่หลายครั้ง จนในช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีที่ 90+3 ทีมเยือนมาได้ประตูชัยจากจังหวะสวนกลับ เดแคลน ไรซ์ แทงจะช่องให้ กาเบรี่ยล มาร์ติเนลลี่ ลากจากกลางสนามหลุดเข้าไปล่อเป้าโล่ง ๆ
ทำให้จบเกม อาร์เซน่อล บุกไปย้ำชัยเอาชนะ เรอัล มาดริด ถึงซานติอาโก้ เบร์นาเบว 2-1 ผ่านเข้าสู่รอบรอบชนะเลิศด้วยผลสกอร์รวมสองนัด 5-1 ต้องปะทะกับ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ทีมแกร่งจากฝรั่งเศส

ส่วนอีกคู่ อินเตอร์ มิลาน เปิดบ้านเสมอกับ บาเยิร์น มิวนิค 2-2 ทีมเยือนนำก่อนจาก แฮร์รี่ เคน นาทีที่ 52 แต่เจ้าถิ่นกลับมาไวได้สองประตูพลิกแซงนำ จาก เลาตาโร่ มาร์ติเนซ นาทีที่ 58 และเบนฌาแม็ง ปาวาร์ นาทีที่ 61 บาเยิร์นฯ ตีเสมออีกครั้งจาก เอริค ดายเออร์ นาทีที่ 76
ทำให้ อินเตอร์ มิลาน ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศด้วยผลสกอร์รวมสองนัด 4-3 โดยจะเข้าไปพบกับ “เจ้าบุญทุ่ม” บาร์เซโลน่า
สำหรับการแข่งขันฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบรองชนะเลิศ จะมีขึ้นในเลกแรกในระหว่างวันที่ 29 และ 30 เมษายน ส่วนเลกสองวันที่ 6 และ 7 พฤษภาคม
สรุปผลฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบก่อนรองชนะเลิศ เลกสอง
โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ (เยอรมัน) 3-1 บาร์เซโลน่า (สเปน)
(บาร์เซโลน่า เข้ารอบด้วยผลสกอร์รวมสองนัด 5-3)
แอสตัน วิลล่า (อังกฤษ) 3-2 ปารีส แซงต์ แชร์กแมง (ฝรั่งเศส)
(ปารีส แซงต์ แชร์กแมง เข้ารอบด้วยผลสกอร์รวมสองนัด 5-4)
เรอัล มาดริด (สเปน) 1-2 อาร์เซน่อล (อังกฤษ)
(อาร์เซน่อล เข้ารอบด้วยสกอร์รวมสองนัด 5-1)
อินเตอร์ มิลาน (อิตาลี) 2-2 บาเยิร์น มิวนิค (เยอรมัน)
(อินเตอร์ มิลาน เข้ารอบด้วยผลสกอร์รวมสองนัด 4-3)