ซาลาห์ปิดกล่อง!หงส์พลิกแซงจิ้งจอก 3-1 ทิ้งสิงห์ 7 แต้ม
ลิเวอร์พูล โดนก่อนแต่ยังกลับมาได้พลิกแซงเอาชนะ เลสเตอร์ ซิตี้ 3-1 ในเกมคู่ดึกสุดของพรีเมียร์ลีก อังกฤษ วันบ็อกซิ่งเดย์

โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ซัดประตูปิดกล่องช่วยให้ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล เปิดบ้านแซงเอาชนะ “สุนัขจิ้งจอก” เลสเตอร์ ซิตี้ 3-1 นำจ่าฝูงพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ด้วยการทิ้งเชลซี 7 คะแนน

โดยเกมนี้เกือบจะต้องเลื่อนการแข่งขันออกไปเนื่องจากสภาพอากาศที่เลวร้ายมีหมอกปกคุมหนาจัด ทำพรีเมียร์ลีกต้องทำการตรวจสอบก่อนจะไฟเขียวให้ลงฟาดแข้งได้ เจ้าถิ่นปรับทัพบางตำแหน่งส่ง เคอร์ติส โจนส์ และดาร์วิน นูนเญซ สตาร์ทตัวจริง

เริ่มเกมมาเพียงแค่ 6 นาที เลสเตอร์ ซิตี้ ที่บุกชุดแรกก็ได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากการขึ้นเกมทางฝั่งซ้าย สเตฟีย์ มาวิดิดี้ กระชากเข้าไปเปิดให้กับ จอร์แดน อายิว แต่งบอลจังหวะแรก่อนจะหมุนตัวยิงด้วยขวาเข้าไป

หลังเสียประตู ลิเวอร์พูล เดินหน้าโหมเกมรุกเข้าใส่อย่างหนัก มีโอกาสหวาดเสียวไปมาอยู่หลายครั้ง แต่จังหวะสุดท้ายยังไม่เฉียบคมผ่าน 25 นาที ทีมเยือนยังบุกมานำอยู่ 1-0

ครึ่งแรกทำท่าว่าจะจบลงด้วยสกอร์ที่ทีมเยือนบุกมานำ แต่ทว่าในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ 45+1 ความพยายามของเจ้าถิ่นก็มาประสบผลสำเร็จจากจังหวะขึ้นเกมฝั่งซ้าย โคดี้ กัคโป ลากตัดเข้ากลางก่อนจะบรรจงปั่นด้วยขวาบอลโค้งเสียบเสาสองเข้าไปอย่างสวยงาม ทำให้จบครึ่งแรกลิเวอร์พูลตามตีเสมอ 1-1

กลับมาเล่นครึ่งหลังเพียงแค่ 4 นาที ลิเวอร์พูล ก็พลิกสถานการณ์แซงขึ้นนำ 2-1 โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ไหลให้กับ อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ ที่เติมขึ้นมาเปิดยัดให้กับ เคอร์ติส โจนส์ ชาร์ตโล่ง ๆ ไม่เหลือ

นาทีที่ 68 ลิเวอร์พูล พลาดโอกาสได้ประตูที่สาม โคดี้ กัคโป ส่งบอลเข้าสู่ก้นตาข่าย แต่ทว่าโดน VAR จับล้ำในจังหวะที่ ดาร์วิน นูนเญซ มีส่วนร่วมก่อนบอลจะมาถึง

จากนั้นนาทีที่ 82 เจ้าถิ่นมาได้ประตูนำห่าง 3-1 โมฮาเหม็ด ซาลาห์ รับบอลจากโคดี้ กัคโป ก่อนจะลากจี้แนวรับปั่นด้วยซ้ายบอลเสียบเสาสองเป็นประตูที่ 100 ในการเล่นเกมเหย้าพรีเมียร์ลีก

ช่วงเวลาที่เหลือไม่สามารถทำอะไรกันเพิ่มได้ ทำให้จบเกม ลิเวอร์พูล เปิดบ้าน เลสเตอร์ ซิตี้ ในเกมคู่สุดท้ายของค่ำคืนบ็อกซิ่งเดย์ เก็บเพิ่มเป็น 42 คะแนน รั้งจ่าฝูงพรีเมียร์ลีก อังกฤษ โดยทิ้งห่างอันดับ 2 อย่าง เชลซี ที่สะดุด 7 แต้ม และมีเกมในมือมากกว่า 1 นัด

11 ผู้เล่นตัวจริงที่ลงสนามของทั้งสองทีม

ลิเวอร์พูล (4-2-3-1) : อลิสซอน เบ็คเกอร์, เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, โจ โกเมซ, เฟอร์จีล ฟาน ไดจ์ค, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน, ไรอัน กราเฟนแบร์ช, อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์, โมฮาเหม็ด ซาลาห์, เคอร์ติส โจนส์, โคดี้ กัคโป และดาร์วิน นูนเญซ

เลสเตอร์ ซิตี้ (4-2-3-1) : ยาคุบ สโตลาร์ชิค, เจมส์ จัสติน, คอนอร์ โคดี้, ยานนิค เวสเตอร์การ์ด, วิคเตอร์ คริสเตนเซ่น, บูบาการี่ ซูมาเร่, แฮร์รี่ วิงค์ส, จอร์แดน อายิว, บิลาล เอล คานนูสส์, สเตฟีย์ มาวิดิดี้ และแพตสัน ดาก้า

TAGS
Football