การแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก หรือ The FIFA Intercontinental Cup Qatar 2024 presented by Aramco ที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี โดยนำทีมแชมป์จาก 6 ทวีปมาแข่งขัน โดยปีนี้เป็นการเตะรูปแบบใหม่ โดยให้สิทธิ์ “แชมป์ยุโรป” รอเล่นนัดชิงชนะเลิศทันที ส่วนทีมอื่น ๆ เตะกันเพื่อหาหนึ่งเดียวเข้าชิงชนะเลิศ
ซึ่งการเตะนัดชิงในวันที่ 18 ธันวาคมนี้ นั่นคือ “ราชันชุดขาว” เรอัล มาดริด แชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก จะดวลกับ ปาชูก้า จากเม็กซิโก แชมป์อเมริกาเหนือ หรือ 2024 CONCACAF Champions Cup ที่ลูซาอิล สเตเดียม เวลาเที่ยงคืน วันพุธนี้
ซึ่งการเตะเริ่มต้นจากรอบแรก หรือ African–Asian–Pacific Cup play-off โดย อัล ไอน์ แชมป์เอเชียจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ชนะ อ็อกแลนด์ ซิตี้ แชมป์โอเชียเนีย 6-2 เมื่อ 22 กันยายนที่ผ่านมา ที่บ้านของอัล ไอน์ จากนั้น รอบ 2 มี 2 คู่ เริ่มจากคู่แรก African–Asian–Pacific Cup อัล อาห์ลี แชมป์แอฟริกา จากอียิปต์ ทุบ อัล ไอน์ ขาดลอย 3-0 ที่กรุงไคโร เมื่อ 29 ตุลาคม 2024 และคู่ที่ 2 Derby of the Americas โบตาโฟโก้ แชมป์อเมริกาใต้ หรือ โคปา ลิเบอร์ตาดอเรสคัพ จากบราซิล แพ้ ปาชูก้า แชมป์อเมริกาเหนือ 0-3 เมื่อ 11 ธันวาคมที่ผ่านมา
จากนั้นมาถึงรอบ 3 หรือ Play-off ที่เรียกว่า Challenger Cup ปรากฎว่า ปาชูก้า เสมอกับ อัล อาห์ลี 0-0 ก่อนจะดวลจุดโทษ ปาชูก้า ชนะ 6-5 โดยที่ ปาชูก้า มี โซโลมอน รอนดอน อดีตหัวหอกเอฟเวอร์ตัน ยืนกองหน้า กับ บอร์ฆา บาสตอง อดีตกองกลางสวอนซี และแอสตัน วิลล่า เป็นตัวหลัก
ทั้งนี้ตลอดการจัดชิงแชมป์สโมสรโลกยุคใหม่ 20 สมัย ยังไม่เคยมีทีมจากทวีปอื่น ๆ ที่ได้แชมป์นอกจาก ยุโรป และอเมริกาใต้ หากว่า เรอัล มาดริด คว้าแชมป์ได้ นับเป็นแชมป์สโมสรโลกสมัยที่ 9 ทันที