ออสเตรีย ระเบิดฟอร์มแกร่งก่อนเอาชนะ อัศวินสีส้ม ไปแบบสุดมัน 3-2 พร้อมคว้าแชมป์กลุ่มไปแบบหักปากกาเซียนเข้ารอบน็อคเอาท์ได้สำเร็จ พร้อมเขี่ยเนเธอร์แลนด์ ร่วงไปอันดับ 3 ของกลุ่ม

ฟุตบอล ยูโร 2024 รอบแรก กลุ่ม D นัดสาม "อัศวินสีส้ม" เนเธอร์แลนด์ ดวลกับ ออสเตรีย ที่สนาม โอลิมเปียสตาดิโอน เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา

เกมนี้ อัศวินสีส้ม ที่มี 4 แต้ม กุมชะตาเข้ารอบไว้ในมือ โรนัลด์ คูมัน กุนซือของทีม ปรับทัพผู้เล่นบางตำแหน่งส่ง ลุตชาเรล เกียร์ทรุยด้า แบ็กขวาฟอร์มแรงจาก เฟเยนูร์ด ออกสตาร์ตตัวจริงนัดแรก ส่วนแนวรุกใช้ ดอนเยล มาเล่น ประสานงานร่วมกับ เมมฟิส เดอปาย และ โคดี้ กัคโป ขณะที่ ออสเตรีย ต้องการชัยชนะเพื่อโอกาสเข้ารอบเช่นกัน ส่ง มาร์เซล ซาบิตเซอร์ บัญเกมรุกสนับสุนน มาร์โค อาร์เนาโตวิช กองหน้าตัวเป้า

GOAL!! เริ่มเกมมาเพียง 5 นาที รูปกมเป็น ออสเตรีย ทีทำได้ดีกว่า และมาได้ประตูนำ 1-0 จากจังหวะที่ อเล็กซานเดอร์ พราสส์ เปิดบอลเข้ามาในกรอบเขตโทษ ดอนเยล มาเลน สกัดบอลผิดจังหวะเปลี่ยนทางเข้าประตูไปเลย

เกมผ่านมาถึงนาที 22 เนเธอร์แลนด์ มาได้โอกาสทองครั้งแรก เมื่อ มาเลน ได้หลุดเดี่ยวเข้าไปยิงเน้นๆ แต่ยิงด้วยซ้ายบอลออกหลังไปแบบเหลือเชื่อ

นาที 34 เนเธอร์แลนด์ ต้องปรับทันทันที เปลี่ยนเอา ซาบี ซิมอนส์ ลงมาแทน โจเอล เฟียร์มัน

อีก 2 นาทีต่อมา ออสเตรีย เกือบได้ประตูหนีห่างเมื่อ ซาบิตเซอร์ ลองส่องไกลบอลพุ่งเข้ากรอบ แฟร์บรูคเก้น ยังปัดมาบอลได้หวุดหวิด

ช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมยังทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ จบครึ่งแรก ออสเตรีย นำ เนเธอร์แลนด์ 1-0

GOAL!! เริ่มครึ่งหลังเพียงนาทีเดียว เนเธอร์แลนด์ มาได้ประตูตีเสมอ 1-1 อย่างรวดเร็ว จากจังหวะที่ ซิมอนส์ ลากบอลมาเกือบครึ่งสนามก่อนจ่ายให้ กัคโป ทางซ้ายแตะหนึ่งจังหวะก่อนปั่นโค้งๆเข้าเสาสองไปอย่างสวยงาม

GOAL!! แต่แล้วเกมผ่านมาครบหนึ่งชั่วโมง ออสเตรีย ขึ้นนำ 2-1 อีกครั้งเมื่อ ฟลอเรียน กริลลิตช์ เปิดบอลจากริมเส้นฝั่งซ้าย บอลหลุดมาถึง โรมาโน่ ชมิด ได้ขึ้นโขกเน้นๆเข้าไปไม่มีเหลือ

อีก 4 นาที อัศวินสีส้ม เปลี่ยนเอา มิคกี้ ฟาน เดอ เฟ่น กับ จอร์จินโญ่ ไวนัลดุม ลงมาแทน อาเก้ และ ไรจ์นเดอร์ส ก่อนที่นาที 70 จะส่ง เวาท์ แวร์กฮอร์สท์ ลงมาแทน มาเลน หวังตีเสมอให้ได้

GOAL!! นาที 77 เนเธอร์แลนด์ ทำประตูตีเสมอ 2-2 ได้จากจังหวะที่ กัคโป เปิดเข้ามาในกรอบเขตโทษให้ แวร์กฮอร์สท์ ได้โหม่งชงให้ เดอ ปาย ยิงเข้าไปอย่างเฉียบขาด แต่ปรากฏว่าผู้ตัดสินเป่าเป็นจังหวะแฮนด์บอลไปก่อน แต่เมื่อเช็ค VAR อีกครั้ง ผู้ตัดสินก็เปลี่ยนคำตัดสินให้เป็นประตู

GOAL!! เข้าสู่ช่วงท้ายเกมนาที 81 ออสเตรีย ขึ้นนำเป็น 3-2 อีกครั้ง เมื่อ คริสตอฟ เบาม์การ์ทเนอร์ แทงบอลทะลุช่องให้ มาร์เซล ซาบิตเซอร์ ได้หลดเข้าไปยิงด้วยซ้ายในกรอบเขตโทษอย่างเฉียบขาด

ช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมทำประตูกันเพิ่มไม่ได้ จบเกม ออสเตรีย เอาชนะ เนเธอร์แลนด์ 3-2 ทำให้สถานการณ์กลุ่มนี้ ออสเตรีย ที่มี 9 แต้มคว้าแชมป์กลุ่มไปครอง ส่วน เนเธอร์แลนด์ มี 4 แต้มเข้ารอบในฐานะอันดับ 3 ของกลุ่ม

รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงที่ลงสนาม

เนเธอร์แลนด์ : บาร์ต แฟร์บรูคเก้น (GK) ,ลุตชาเรล เกียร์ทรุยด้า ,สเตฟาน เดอ ไฟรจ์ ,เฟอร์กิล ฟาน ไดจ์ค ,นาธาน อาเก้ ,เยอร์ดี้ เชาเท่น ,ติยานี่ ไรจ์นเดอร์ส ,โจเอล เฟียร์มัน ,ดอนเยลล์ มาเลน ,โคดี้ กัคโป เมมฟิส เดปาย

ออสเตรีย : แพทริก เพนท์ซ (GK) ,สเตฟาน พอสช์ ,แม็กซิมิเลียน โวเบอร์ ,ฟิลิปป์ ไลน์ฮาร์ต ,อเล็กซานเดอร์ พราสส์ ,นิโคลัส ไซวัลด์ ,ฟลอเรียน กริลลิตช์ ,โรมาโน่ ชมิด ,แพทริก วิมเมอร์ ,มาร์เซล ซาบิตเซอร์ ,มาร์โก อาร์เนาโตวิช